บทที่ 2 ทัศนธาตุ

                                                 ทัศนธาตุ
         ทัศนะ หมายถึง การเห็น สิ่งที่มองเห็น ธาตุ หมายถึง สิ่งที่ถือว่าเป็นส่วนส าคัญที่รวมกัน เป็นรูปร่าง ของสิ่งทั้งหลาย ทัศนธาตุ หมายถึง ส่วนส าคัญที่รวมกันเป็นรูปร่างของสิ่งทั้งหลาย ตามที่ตามองเห็น ทัศนธาตุ ได้แก่ 1. จุด (Dot) 
                          2. เส้น (Line)
                          3. สี (Color) 
                          4. รูปร่างและรูปทรง (Shape and Form) 
                          5. น้ำหนัก (Value) 
                          6. บริเวณว่าง (Space) 
                          7. ลักษณะผิว (Texture) 

ภาพทิวทัศน์ ผลงาน ณรัฐ กำพลมาศ
ที่มา http://ruksinrspa.blogspot.com/2010/09/blog-post_4703.html
                   ฉะนั้นการรู้จักสังเกตธรรมชาติที่อยู่รอบ ๆ ตัวและการรู้จักเลือกสรรส่วนประกอบจากธรรมชาติมาจัดองค์ประกอบทางศิลปะนั้น จึงเป็นวิธีที่ง่ายและดีที่สุดในการสร้างสรรค์งานศิลปะทัศนธาตุ ประกอบด้วย

1.จุด ( point )

                   จุด ( point ) หมายถึง สิ่งที่ปรากฏบนพื้นระนาบที่มีขนาดเล็กที่สุด ไม่มีความกว้าง ความยาว ความสูง ความหนา หรือความลึก จุดเป็นทัศนธาตุที่เล็กที่สุดและมีมิติเป็นศูนย์ จุดสามารถแสดงตำแหน่งได้เมื่อมีบริเวณว่างรองรับ จุดถือเป็นทัศนธาตุหรือพื้นฐานเบื้องต้นที่สุดในการสร้างงานทัศนศิลป์ จุดเป็นต้นกำเนิดของทัศนธาตุอื่นๆ เช่น เส้น รูปร่าง รูปทรงและพื้นผิว ค่าความอ่อนแก่ แสงเงา เราสามารถพบเห็นจุดได้โดยทั่วไปในธรรมชาติ เช่น ดวงดาวบนท้องฟ้า บนส่วนต่างๆของผิวพืชและสัตว์ บนก้อนหิน พื้นดินฯลฯ
ยิ้มรัก สีอะคริลิค ขนาด 60x80 ซ.ม.
ผลงานอาจารย์ที่เคารพของบล็อกเกอร์ อ.เทียนชัย ตั้งพรประเสริฐ
                     ที่มา http://ruksinrspa.blogspot.com/2010/09/blog-post_4703.html

           



2.เส้น (Line)

             เส้น คือ จุดหลาย ๆ จุดต่อกันเป็นสาย เป็นแถวแนวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเป็นทางยาว หรือจุดที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งด้วยแรงผลักดัน หรือรอยขูดขีดเขียนของวัตถุ เป็นรอยยาว เส้นแบ่งเป็นลักษณะใหญ่ ๆ 2 ลักษณะ ดังนี้
              1. เส้นตรง  
                  1.1. เส้นดิ่ง คือ เส้นตรงที่ตั้งฉากกับพื้นระดับให้ความรู้สึกมั่นคง แข็งแรง สง่า รุ่งเรือง สมดุล พุ่งขึ้น 


                1.2 เส้นนอน คือ เส้นตรงที่นอนราบไปกับ พื้นระดับ ให้ความรู้สึกกว้างขวาง สงบเงียบ เยือกเย็น ผ่อนคลาย


            1.3 เส้นเฉียง คือ เส้นตรงเอนไม่ตั้งฉากกับพื้น ระดับให้ความรู้สึกไม่มั่นคง เคลื่อนไหว แปรปรวน ไม่สมบูรณ์


                   1.4. เส้นฟันปลา คือ เส้นตรงหลายเส้นต่อกัน สลับขึ้นลงระยะเท่ากัน ให้ความรู้สึก รุนแรง กระแทก ตื่นเต้น อันตราย ขัดแย้ง


                      1.5. เส้นประ คือ เส้นตรงที่ขาดเป็นช่วง ๆ มีระยะเท่ากัน ให้ความรู้สึกต่อเนื่อง ขาดระยะ ใจหาย ไม่แน่นอน



                2. เส้นโค้ง 
                       2.1. เส้นโค้งลง คือ เส้นที่เป็นท้องกระทะคล้าย เชือกหย่อน ให้ความรู้สึกอ่อนโยน เคลื่อนไหวไม่แข็งแรง



                      2.2. เส้นโค้งขึ้น คือ เส้นที่โค้งเป็นหลังเต่า คล้ายคันธนูให้ความรู้สึกแข็งแรง เชื่อมั่น เคลื่อนไหว



                       2.3. เส้นคด คือ เส้นโค้งขึ้นโค้งลงต่อเนื่องกันคล้ายคลื่นในทะเล ให้ความรู้สึกเลื่อนไหล ต่อเนื่อง อ่อนช้อย นุ่มนวล



                      2.4. เส้นก้นหอย คือ เส้นโค้งต่อเนื่องกันวนเข้าเล็กลงเป็นจุด คล้ายก้นหอย ให้ความรู้สึกอึดอัด เคลื่อนไหวคลี่คลาย


                   2.5. เส้นโค้งอิสระ คือ เส้นโค้งต่อเนื่องกันไปไม่มีทิศทาง คล้ายเชือกพันกัน ให้ความรู้สึกวุ่นวาย ยุ่งเหยิง ไม่เป็นระเบียบ





             3.สี (Colour)

                       สี หมายถึง ลักษณะของแสงสว่าง ปรากฏแก่ตาให้เห็นเป็นสีขาว ด า แดง เขียว น้ า เงิน เหลือง เป็นต้น ถ้าไม่มีแสงจะมองไม่เห็นสี ซึ่งสีมี 2 ชนิด ดังนี้ 
              1. สีที่เป็นวัตถุ (Pigment) สีที่เป็นรงควัตถุสีผงหรือธาตุในร่างกายที่ท าให้คนมีสีต่าง ๆ สีที่เกิดจากวัตถุธาตุ เช่น จากพืช สัตว์ แร่ธาตุ เป็นต้น ซึ่งเป็นสีที่ใช้ในงานศิลปะ


          2. สีที่เป็นแสง (Spectrum)  สีที่เกิดจากการหักเหของแสง  แสงส่องผ่านแท่งแก้ว  แสงแดดส่องผ่านละอองน้ำในอากาศจะเกิดการหักเหของแสงเป็นสีรุ้ง 7 สี  ได้แก่  สีแดง  ส้ม  เหลือง  เขียว  น้ำเงิน  คราม  ม่วง

 

วงจรสีธรรมชาติ 
           วงจรสี เกิดจากการนำเอาแม่สีที่เป็นวัตถุมาผสมกันเป็นสี 3 ขั้น มี 12 สี คือ  สีเหลือง  เหลืองเขียว  เขียว  เขียวน้ำเงิน  น้ำเงิน  น้ำเงินม่วง  ม่วง  ม่วงแดง  แดง  แดงส้ม  ส้ม  เหลืองส้ม  หรือเรียกว่า  วงล้อของสี
           สีขั้นที่ 1 คือ สีที่ไม่มีสีใดสามารถผสมให้ได้สีน้ัน ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน

 

           สีขั้นที่ 2 (Secondary Colours)  
            สีขั้นที่ 2  เกิดจากการนำเอาแม่สีที่เป็นวัตถุทั้ง  3 สี มาผสมกันเกิดสีใหม่ขึ้นมาอีก 3 สี  
                        คือ ส้ม   เขียว   ม่วง 
 

สีขั้นที่ 3 (Tertiory  Colours)

         สีขั้นที่ 3เกิดจากการนำเอาสีขั้นที่ 1 กับสีขั้นที่ 2 มาผสมกัน ทีละคู่ที่อยู่ติดกัน จะได้สีเพิ่มขึ้น                      อีก 6 สี

                      สีแดง = ตื่นเต้น เร้าใจ อันตราย พลัง อำนาจ รัก
                      สีส้ม = ตื่นตัว ตื่นเต้น เร้าใจ สนุกสนาน
                      สีเหลือง = สดใส ร่าเริง ฉลาด เปรี้ยว
                      สีเขียวอ่อน = สดชื่น ร่าเริง เบิกบาน
                      สีเขียวแก่ = สะอาด ปลอดภัย สดชื่น ธรรมชาติ ชรา
                      สีน้ำเงิน = สุภาพ เชื่อมั่น หนักแน่น ถ่อมตัว ผู้ชาย
                      สีฟ้า = ราบรื่น สว่าง วัยรุ่น ทันสมัย 
                      สีม่วง = ฟุ่มเฟือย ลึกลับ ขี้เหงา
                      สีชมพู = ความรัก ผู้หญิง อ่อนหวาน นุ่มนวล หอม
                      สีขาว = ความบริสุทธิ์ สะอาด ปลอดภัย เด็กทารก
                      สีดำ = ทุกข์ ลึกลับ สืบสวน หนักแน่น
                      สีเทา = สุภาพ ขรึม
                      สีน้ำตาล = อนุรักษ์ โบราณ ธรรมชาติ


         4. รูปร่างและรูปทรง (Shape and Form) 

          รูปร่าง ( Shape ) หมายถึง  การนำเส้นมาประกอบกันให้เกิดความกว้างและความยาว ไม่มีความหนาหรือความลึกมีลักษณะ 2 มิติ
       รูปแบบที่เป็น 2 มิติแสดงพื้นที่ผิวเป็นระนาบแบนไม่แสดงความเป็นปริมาตร ซึ่งมีลักษณะแบนราบ ไม่แสดงน้ำหนักแสงเงา รูปร่างในทางศิลปะอาจแบ่งได้ 3 ประเภท คือ
         1. รูปร่างธรรมชาติ หมายถึง รูปร่างที่ถ่ายทอดแบบมาจากธรรมชาติที่พบเห็นอยู่ทั่วไป เช่น คน สัตว์ พืช ฯลฯ 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปร่างธรรมชาติ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปร่างธรรมชาติ


          2. รูปร่างเรขาคณิต หมายถึง รูปร่างที่มนุษย์สร้างขึ้น มีโครงสร้างแน่นอน ได้แก่ รูปร่างวงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ห้าเหลี่ยม วงรี ฯลฯ
รูปร่างเรขาคณิต
ที่มา...http://www.praphansarnblog.com/asianmanga/?p=36

           3. รูปร่างอิสระ หมายถึง รูปร่างที่มีลักษณะไม่แน่นอน ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ารูปร่างจะเปลี่ยนแปลงหรือเคลื่อนไหวไปในรูปแบบใดหรือทิศทางใด
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปร่างธรรมชาติ



            รูปทรง ( Form ) หมายถึง  การนำเส้นมาประกอบกันให้เกิดความกว้าง ความยาว และความหนาหรือความลึก มีลักษณะ 3มิติ
                 


            สิ่งที่มีลักษณะแน่นทึบแบบ 3 มิติ เช่นงานประติมากรรม สถาปัตยกรรม หรือลักษณะ ที่มองเห็นเป็น 3 มิติในงานจิตกรรม รูปทรงในทางศิลปะอาจแบ่งได้ 3 ประเภทคือ

             1. รูปทรงธรรมชาติ (organic form) ได้แก่ หมายถึง รูปทรงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ได้แก่ คน สัตว์ พืช มีลักษณะ 3 มิติรูปทรงในลักษณะนี้จะให้ความมีชีวิตชีวา


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปทรงธรรมชาติ คือ

           2. รูปทรงเรขาคณิต(geometric form) มายถึง รูปทรงที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่รูปทรงสามเหลี่ยม รูปทรงสี่เหลี่ยม รูปทรงกลม รูปทรงกรวย ฯลฯ
รูปทรงเรขาคณิต
                     ที่มา http://ruksinrspa.blogspot.com/2010/09/blog-post_4703.html


            3. รูปทรงอิสระ(free form) หมายถึง รูปทรงที่เกิดขึ้นเองอย่างอิสระไม่มีโครงสร้างแน่นอน เช่นรูปทรงของก้อนหิน กรวด ดิน ก้อนเมฆ เปลวไฟ หยดน้ำ ต้นไม้ ภูเขา ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีรูปทรงที่แปลกให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวและเป็นอิสระ


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รูปทรงอิสระ คือ



รูปทรงอิสระ
ที่มา http://ruksinrspa.blogspot.com/2010/09/blog-post_4703.html


              5. น้ำหนัก (Value) 

                 น้ำหนัก หมายถึง ความอ่อนแก่ของสี หรือแสงเงาที่นำมาใช้ในการเขียนภาพ น้ำหนักทำให้รูปทรงมี ปริมาตร และให้ระยะแก่ภาพ      
แสงและเงา(Light & Shade)
 
          แสงและเงา เป็นองค์ประกอบที่อยู่คู่กัน แสง เมื่อส่องกระทบกับวัตถุ จะทำให้เกิดเงา
           แสงและเงา เป็นตัวกำหนดระดับของค่าน้ำหนัก ความเข้มของเงาจะขึ้นอยู่กับความเข้มของแสง ในที่ที่มีแสงสว่างมาก


          แสงและเงา เป็นองค์ประกอบที่อยู่คู่กัน แสง เมื่อส่องกระทบกับวัตถุ จะทำให้เกิดเงา
          แสงและเงา เป็นตัวกำหนดระดับของค่าน้ำหนัก ความเข้มของเงาจะขึ้นอยู่กับความเข้มของแสง ในที่ที่มีแสงสว่างมาก




6. บริเวณว่าง (Space)

 บริเวณว่าง (Space)
 
บริเวณว่าง หรือ ช่องไฟ คือ
     1. อากาศที่โอบล้อมรูปทรง


     

2. ระยะห่างระหว่างรูปทรง


     

3. บริเวณภายในรูปทรงที่มีลักษณะกลวงหรือทะลุเป็นช่องที่มีอากาศผ่านเข้าไปได้


     

4. บริเวณว่างของภาพเขียนหรือภาพวาด ที่มองดูเป็นช่องลึกเข้าไปในภาพ เรียกว่า  บริเวณว่างลวงตา

  

 7. ลักษณะผิว (Texture) 


                  พื้นผิว ( texture) หมายถึง ลักษณะภายนอกของวัตถุที่เรามองเห็นและสัมผัสได้ ภาพที่มีลักษณะพื้นผิวที่แตกต่างกันจะให้ความรู้สึกสนุกสนานตื่นเต้นและมีชีวิตชีวา พื้นผิวสามารถก่อให้เกิดความรู้สึกในลักษณะต่าง ๆ กันเช่น หยาบ ละเอียด มันวาว ด้าน และขรุขระ เป็นต้น




พื้นผิว
ที่มา http://ruksinrspa.blogspot.com/2010/09/blog-post_4703.html

                      ที่มา  http://ruksinrspa.blogspot.com/2010/09/blog-post_4703.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น